วันนี้ในระหว่างที่ผมได้ค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับระบบการเตือนภัยจากน้ำท่วม ดินถล่มจากเวปไชต์ต่างๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ ผมเองมาสะดุดกับเรื่องนึงที่ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับวิธีการสังเกตุฟ้าฝนจากธรรมชาติ ซึ่งได้รับคำตอบที่น่าสนใจจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ใช้วิธีการสังเกตุจากต้นไม้ใบหญ้าตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ จึงขอนำมาเขียนเป็นบทความ สิ่งที่ผมอยากพูดถึงคือ “หญ้าครุน”
ชื่อสามัญ หญ้าชันกาด (ภาคกลาง) หญ้าอ้อน้อย แขมมัน (เชียงใหม่) หญ้าครุน (ภาคใต้) torpedo grass
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เกษตร เป็นพืชที่มีอายุหลายปี มีเหง้าหรือลำต้นใต้ดิน และมีไหล ลำต้นตั้ง หรือ โคนต้นทอดนอน และชูส่วนปลายขึ้น สูง 75 – 100 เซนติเมตร ลำต้นอวบน้ำแต่เหนียว ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 – 4.3 มิลลิเมตร แตกรากตามข้อ และแตกหน่องอกเป็นต้นใหม่ ใบกว้าง 0.9 – 1.1 เซนติเมตร ยาว 18 – 27 เซนติเมตร กาบใบยาว 7.4 – 9.1 เซนติเมตร รูปร่างใบเรียวไปที่ปลายใบ ที่ฐานใบจะมีลิ้นใบ (ligule) สั้นมาก เป็นแผ่นปลายเป็นเส้นๆ (membranous frayed) สูง 0.5 มิลลิเมตร และมีขนยาว 4 – 5 มิลลิเมตร จำนวนเล็กน้อยบริเวณหลังลิ้นใบ ใบด้านหน้ามีขนสีขาวจำนวนมาก หลังใบไม่มีขน ขอบกาบใบมีปุยขนสีขาวจำนวนมาก แต่ตัวกาบใบไม่มีขน ใบมีสีเขียวค่อนข้างเข้ม ขอบใบเรียบ (entire) ความยาวช่อดอก 28 – 34 เซนติเมตร ขยายพันธุ์โดยเมล็ด ลำต้น และเหง้า
แหล่งที่พบและเก็บรวบรวมพันธุ์ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส (SN 049) อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช (SN 058) อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (PC 027) อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ (PC 073) อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี (PC 089) อำเภอพระยืน อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น (PC 301, PC 315) อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ (PC 386)
วิธีการสังเกตนั้น จะดูที่หญ้าชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “หญ้าครุน” ซึ่งงอกตามท้องไร่ท้องนาทั่วไป โดยดูที่ใบสมบูรณ์ ให้ดูที่รอยกิ่วที่ใบ หรือจะเรียกว่ารอยหยักก็ได้ ไปนี้ชาวบ้านบอกว่ามีรอยกิ่วแค่ 1 หยัก แปลว่าปีนี้น้ำน้อย จะมีฝนตกหนักและอาจเกิดน้ำหลากแค่ 1 ครั้ง ผิดกับที่ผ่านมา ที่ใบหญ้าครุนมีรอยกิ่วมากถึง 3 หยัก ซึ้งน้ำจะมาก น้ำท่วมใหญ่
ขอบคุณเวปกิมหยงดอทคอมสำหรับเรื่องราวดีๆที่ผมนำมาเผยแพร่ต่อ